วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

IP-PBX คืออะไร และการImplement ระบบยังไง

IP-PBX เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมโยง,ควบคุม เครื่องโทรศัพท์ในระบบ และทำหน้าที่หลักของตู้ชุมสายโทรศัพท์ (เช่นระบบ Voicemail , IVR , Auto-Attendant) ในการสื่อสารทางเสียงผ่านระบบเครือข่าย intranet หรือ internet.

โดยการทำงานของ IP-PBX นั้นจะทำหน้าที่เหมือน ตู้ชุมสาย PABX โดยจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการทำงาน เช่น การ Route Call ไปยังปลายทาง

หากแต่ IP-PBX นั้นจะทำงานผ่านระบบ IP หรือ ระบบ computer network (LAN/WAN) เป็นหลัก

ฉะนั้น ในการส่งเสียงไปยังปลายทางจำเป็นต้องส่งผ่านระบบ Computer Network โดยเสียงที่จะส่งจะต้องถูกแปลงไปเป็น รูปแบบ digital โดยอุปกรณ์ VoIP ที่สามารถส่งสัญญาณผ่านระบบ network ได้ ก่อนที่จะถูกแปลงเป็นสัญญาณเสียงอีกครังที่อุปกรณ์ปลายทาง


ลักษณะการเชื่อมต่อทางเครือข่าย จะมีลักษณะดังนี้ สามารถนำเอาไปประยุกต์เอาไปใช้งานได้ตามความต้อง




ประโยชน์และข้อดี

1. ง่ายต่อการติดตั้ง, เนี่องด้วยการทำงานของ IP-PBX นั้น ต้องทำงานบนระบบ network ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเดินสายโทรศัพท์เพิ่มเติม อีกทั้งยังสามารถทำการ ย้ายเครื่องโทรศัพท์ไปยังตำแหน่งใดๆก็ได้ที่อยู่บนระบบเครือข่ายเดิมโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงค่าอะไรเลยบนเครื่องโทรศัพท์และระบบเครือข่าย หากมีระบบ wireless-lan อยู่ในระบบเครือข่ายก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ wireless ที่มีอยู่ได้โดยง่าย (wifi phone)

2. การเพิ่ม phone ทำได้โดยง่าย เนื่องด้วยทำงานบนระบบ network ฉะนั้นการเพิ่มหัวเครื่องโทรศัพท์จึงเหมือนการติดเครื่อง PC ใหม่ในระบบเท่านั้น จะไม่ตายตัวกับจำนวนพอร์ทบนตู้ชุมสายเหมือนในระบบ legacy-PABX ทั้งนี้การเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเครื่อง IP-PBX ด้วยว่าสามารถรองรับการทำงานได้เพียงพอหรือไม่

3. ประโยชน์ของระบบ internet และ intranet ระบบ IP-PBX ได้รับประโยชน์โดยตรงจากระบบเครือข่าย คือ หากมีการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายเข้าด้วยกันแล้วนั้น ไม่ว่าเครื่องโทรศัพท์จะอยู่ในที่แห่งใดๆในระบบ ก็เสมือนว่าอยู่ในระบบโทรศัพท์เดียวกัน การโทรศัพท์จึงเป็นไปได้โดยง่าย และ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการโทรศัพท์บนระบบ IP-PBX เดียวกันไม่มีจะอยู่ในที่ใดๆก็ตาม จึงทำให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ระหว่างประเทศและรับส่งFAXกันได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

4. รอบรับระบบ Video Call, สามารถรองรับการโทรศัพท์แบบเห็นภาพได้ทันทีหากมีอุปกรณ์ที่รองรับในทั้งสองคู่สนทนา

5. รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Database, ระบบ Computer. เนื่องด้วย IP-PBX ส่วนใหญ่เป็น software ฉะนั้นการเพิ่มเติม feature ต่างๆ จึงเป็นไปได้โดยง่าย ฉะนั้น Application ต่างๆที่เป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ยากบนระบบ legacy-pbx จึงสามารถทำได้บนระบบ IP-PBX

6. การ maintenance สามารถทำได้ง่ายกว่าระบบ legacy-pabx ทั่วไปในกรณีที่ IP-PBX นั้นๆทำงานบน server

7. รองรับระบบ High Availability เพื่อลดเวลาที่ระบบจะเกิดปัญหาและต้องหยุดให้บริการ

8. สามารถเชื่อมต่อให้กับผู้ให้บริการ VoIP-Operator ได้โดยตรงเพื่อทำให้สามารถโทรศัพท์ไปยังระบบโทรศัพท์ได้ในราคาที่ประหยัดกว่ามาก

9. รองรับอนาคตสามารถทำงานร่วมกันในทั้งระบบ Voice/data/Video


ข้อด้อยหรือซี่งที่จะต้องมีเพิ่มเติมในระบบ

1. จำเป็นต้องมีระบบเครือข่าย

2. จำเป็นต้องมีการ config ระบบเครือข่ายเพิ่มเติมในกรณีที่มี ข้อมูลวิ่งอยู่บนระบบมากๆเพื่อทำให้มั่นใจว่าคุณภาพเสียงจะไม่มีปัญหา


Implement ระบบยังไง

ในที่นี้จะลงด้วยระบบปฏิบัตการ CentOS และใช้ Asterisk เพื่อใช้นำมาทำเป็น IP-PBX เพื่อมาจัดการกับ VOICE โดยต่อไปนี้จะกล่าวถึงขั้นตอนสำคัญของการimplementระบบ

การติดตั้งระบบปฏิบัติการ CentOS

การติดตั้ง Centos 5.2 Linux server :: โดยเสรี โพธิ์นิล1. ตั้งค่า BIOS เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ server ให้ Boot เข้า CD-ROM เป็นอันดับแรก

ในขั้นนี้จะพบหน้าจอการติดตั้ง CentOS5 ระบบจะให้เราเลือกรูปแบบการติดตั้ง ถ้าต้องการติดตั้งแบบ Graphic Mode ให้กด Enter หรือถ้าเราต้องการติดตั้งแบบ Text Mode ให้พิมพ์คำว่า linux text แล้วกด Enter

2. ระบบจะถามว่าคุณต้องการตรวจสอบแผ่นระบบปฏิบัติการก่อนการติดตั้งหรือไม่ซึ่งถ้าเราตรวจสอบก็จะใช้เวลานาน

3. เข้าสู่การติดตั้ง CentOS แบบGraphic Mode

4. เลือกภาษามาตรฐานในการติดตั้ง

5. เลือกภาษาให้คีย์บอร์ด

6. ระบบจะแจ้งเตือนว่าการติดตั้งจะทำให้ข้อมูลที่มีอยู่เดิมลบหายไป

7. เริ่มการแบ่ง พาติชั่น

8. เมื่อกำหนดพื้นที่เสร็จแล้วให้คลิกที่ปุ่ม Next

9. การกำหนดหมายเลข IP Address ให้เครือข่าย

10. เลือกโซนเวลาโดยการคลิกเลือกที่รูปแผนที่ประเทศไทย

การติดตั้ง Centos 5.2 Linux server :: โดยเสรี โพธิ์นิล
11. กำหนดรหัสให้ root

12. เลือก Package Server หรือโปรแกรมที่จะติดตั้งให้กับ Server

13. เสร็จสิ้นการติดตั้ง

14.หลังจาก Reboot แล้วก็สามารถlogin เข้าใช้งานระบบปฏิบัติการได้


การติดตั้ง ASTERISK เพื่อทำเป็น IP-PBX

-ในส่วน Hardware
ผมจะติดตั้ง Asterisk บน CentOS บน Notebook Acer TravelMate 6293
วางแผนไว้สเปค คือ
CPU Intel(R) Core(TM)2Duo P8400 2.26 GHz
RAM 2 GB
HD ประมาณ 19 GB
LAN card 100 Mbps
ขั้นแรกผมลง Centos โดยเลือกแบบ server ไม่มี GUI ขณะที่ลง OS ก็มีการเชื่อมต่อ internet อยู่
-ในส่วนCompile Asterisk
compile Asterisk 1.6.x บน CentOS 5.x
ติดตั้ง dependencies และ packages ที่จำเป็นในการ compile
#yum -y install gcc gcc-c++ kernel-devel bison openssl-devel
#yum -y install libtermcap-devel ncurses-devel doxygen curl-devel newt-devel
#yum -y install mlocate lynx tar wget nmap bzip2 mod_ssl crontabs vixie-cron
#yum -y install speex speex-devel unixODBC unixODBC-devel libtool-ltdl
#yum -y install libtool-ltdl-devel mysql-connector-odbc mysql mysql-devel
#yum -y install mysql-server php-mysql php-mbstring php-mcrypt flex screen
#yum -y install subversion

เช็ค kernel.xxx kernel-devel และ kernel-headers ต้องเป็น version เดียวกันถ้าไม่เป็น version เดียวกันก็ให้พิมพ์คำสั่ง
#yum -y install kernel.xxx kernel-devel kernel-headers (xxx หมายถึง architecture ของ CPU)
หลังจากนั้นพิมพ์คำสั่ง
#mkdir -p /usr/src/asterisk
#cd /usr/src/asterisk
#wget http://downloads.digium.com/pub/asterisk/asterisk-1.4-current.tar.gz
#wget http://downloads.digium.com/pub/telephony/dahdi-linux-complete/dahdi-linux-
complete- current.tar.gz
#wget http://downloads.digium.com/pub/libpri/libpri-1.4-current.tar.gz
#tar -zxvf dahdi-linux-complete-current.tar.gz
#tar -zxvf asterisk-1.4-current.tar.gz
#tar -zxvf libpri-1.4-current.tar.gz
#cd /usr/src/asterisk/libpri-VERSION (แทน VERSION ด้วยตัวเลข version ทีมีอยู่จริง)
#make clean
#make
#make install
#cd /usr/src
#ln -s kernels linux
#cd /usr/src/asterisk/dahdi-linux-complete-VERSION
#make all
#make install
#make config
#chkconfig dahdi on
#service dahdi start
#cd /usr/src/asterisk/asterisk-VERSION
#make clean
#./configure
#Choose which options to install
#make menuselect
#make
#make install

ไป part /etc/init.dแล้ว
#asterisk start

ตอนนี้ Asterisk server ก็น่าจะ run แล้ว ลอง connect ดู
#asterisk -r
ก็จะได้ message ว่า Asterisk กำลัง run อยู่ เป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้ง

-คอนฟิกไฟล์ของ Asterisk จะอยู่ที่ /etc/asterisk โดยมีคอนฟิกไฟล์เบื้องต้น ดังนี้
ให้สร้าง zaptel.conf เป็นคอนฟิกไฟล์เกี่ยวกับ driver ของการ์ดต่างๆ เช่น TDM400P, X100P เป็นต้น
ให้สร้าง zapata.conf เป็นคอนฟิกไฟล์ของ Asterisk ที่กำหนดพารามิเตอร์ต่างๆ ให้กับ channelsของการ์ดที่ติดตั้งให้สร้าง sip.conf เป็นคอนฟิกไฟล์สำหรับ sip protocol
ให้สร้าง iax.conf เป็นคอนฟิกไฟล์สำหรับ iax protocol
ให้สร้าง extensions.conf เป็นคอนฟิกไฟล์ที่กำหนด dial plan ทำให้ระบบทำงานตาม flow ที่ต้องการ
ให้สร้าง voicemail.conf เป็นคอนฟิกไฟล์ที่กำหนด voicemail
เนื่องจากระบบที่เราติดตั้งไม่มีการ์ดใดๆ (TDM400P, X100P etc.)
ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องคอนฟิก zaptel.conf และ zapata.conf
ผมจะแสดงคอนฟิก 3 ไฟล์ที่สำคัญ คือ sip.conf , extensions.conf , voicemail.conf
ส่วนไฟล์ .conf อื่นอีกหลายไฟล์ดังรูปข้างล่างสร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับระบบ IP-PBX โดยมีรายละเอียดมากจึงไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้



ใน LAB สำหรับ project นี้เรามีdesign diagram สำหรับทดสอบดังนี้

-ในส่วนนี้จะเป็นการ สร้างfile ชื่อ sip.conf แล้วก็config

[general]

register=username:password@192.168.9.1
port=5060
bindaddr=0.0.0.0
allow=all

match_auth_username=yes

tos=184

maxexpiry=3600

defaultexpiry=120

videosupport=yes

musicclass=default

externrefresh=10

localnet=192.168.9.0/255.255.255.0


[2000]

type=friend
username=2000
secret=1234
host=dynamic
context=from-sip
mailbox=100@default

callerid=”ton”<2000>

nat=yes

canreinvite=no


[2001]

type=friend
username=2001
secret=1234
host=dynamic
context=from-sip
mailbox=101@default

callerid=”tiger”<2001>

nat=yes

canreinvite=no


[2002]

type=friend
username=2002
secret=1234
host=dynamic
context=from-sip
mailbox=102@default

callerid=”ying”<2002>

nat=yes

canreinvite=no


[2003]

type=friend
username=2003
secret=1234
host=dynamic
context=from-sip
mailbox=103@default

callerid=”kook”<2003>

nat=yes

canreinvite=no


[2004]

type=friend
username=2004
secret=1234
host=dynamic
context=from-sip
mailbox=104@default

callerid=”ron”<2004>

nat=yes

canreinvite=no


[2005]

type=friend
username=2005
secret=1234
host=dynamic
context=from-sip
mailbox=105@default

callerid=”vit”<2005>

nat=yes

canreinvite=no


-ในส่วนนี้จะเป็นการสร้างfileชื่อ extension.conf แล้วก็ config

[general]

static=yes
writeprotect=yes

[from-sip]

exten => 2000,1,Dial(SIP/2000,20)

exten => 2000,2,Voicemail(100@default)
exten => 2000,3,PlayBack(vm-goodbye)
exten => 2000,4,Hangup

exten => 2001,1,Dial(SIP/2001,20)
exten => 2001,2,Voicemail(101@default)
exten => 2001,3,PlayBack(vm-goodbye)
exten => 2001,4,Hangup
exten => 2002,1,Dial(SIP/2002,20)
exten => 2002,2,Voicemail(102@default)
exten => 2002,3,PlayBack(vm-goodbye)
exten => 2002,4,Hangup

exten => 2003,1,Dial(SIP/2003,20)
exten => 2003,2,Voicemail(103@default)
exten => 2003,3,PlayBack(vm-goodbye)
exten => 2003,4,Hangup

exten => 2004,1,Dial(SIP/2004,20)
exten => 2004,2,Voicemail(104@default)
exten => 2004,3,PlayBack(vm-goodbye)
exten => 2004,4,Hangup

exten => 2005,1,Dial(SIP/2005,20)
exten => 2005,2,Voicemail(105@default)
exten => 2005,3,PlayBack(vm-goodbye)
exten => 2005,4,Hangup

exten => 1122,1,Answer()

exten => 1122,2,SayDigit(${CALLERIDNUM})

exten =>1122,3,Hangup()

-ในส่วนนี้จะเป็นการสร้างfileชื่อ voicemail.conf แล้วก็ config

[general]

format=wav|gsm

[default]
100 => 1234,ton,XXXXX@hotmail.com
101 => 1234,tiger,XXXXX@hotmail.com

102 => 1234,ying,XXXXX@hotmail.com

103 => 1234,kook,XXXXX@hotmail.com

104 =>1234,ron,XXXXX@hotmail.com

105 =>1234,vit,XXXXX@hotmail.com


-หลังจากคอนฟิกไฟล์เรียบร้อยแล้วให้ reload Asterisk ดังนี้

เข้าสู่ Asterisk CLI interface

[root@localhost asterisk]# asterisk -r


แล้วใช้คำสั่ง reload ดังนี้

localhost*CLI>reload


การconfig Voice Gateway with Router Model:SPA3102
โดยจะมีการ config คล่าวๆดังนี้










การติดตั้ง โปรแกรม X – Lite
โปรแกรม X-Lite เป็นโปรแกรมพวก softphone ที่สนับสนุนการใช้งานแบบ VoIP ที่เราเอามาใช้ในการtest lab project สามารถ Download ได้ที่ http://www.xten.com
1.ทำการติดตั้ง โปรแกรม X- Lite ลงในเครื่องลูกข่าย คลิกที่ไฟล์ setup ของโปรแกรม X –Lite จะแสดงดังนี้ แล้ว คลิกเลือก Next >

2.ให้คลิกเลือก I accept the agreement แล้ว คลิกเลือก Next>

3.เลือกไดรว์ที่ต้องการเก็บตัวโปรแกรมไว้ คลิกเลือก Next >


4.ให้ทำการเลือกแสดง Icon และ Launch Option


5.จากนั้นโปรแกรมจะทำการ ติดตั้งไปยังไดร์ฟที่เราได้กำหนดไว้


6.เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้วจะมีข้อความแสดงข้อความ Completing the X – Lite Setup Wizard แล้ว คลิกเลือก Finish



7.เมื่อ คลิก Finish แล้วโปรแกรมจะแสดงขึ้นมา ให้สังเกตุ ที่หน้าจอของโปรแกรมจะมีข้อความ Regisration error: 503 – No route to host

8.ให้คลิกเลือกที่ Show Munu ที่ตัวโปรแกรม

9.จากนั้น คลิกเลือกที่ปุ่ม Add…

10.ให้ทำการใส่ข้อมูล


11.หน้าจอของโปรแกรมจะแสดง Ready Your username is : 2000 และจะมีไฟสีเขียวแสดง
วางแผนและทดสอบได้ผลดังนี้

ton<2000> โทรหา tiger<2001> [OK]
ton<2000> โทรหา tiger<2001> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง[OK]
ton<2000> โทรหา ying<2002> [OK]
ton<2000> โทรหา ying<2002> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ton<2000> โทรหา kook<2003> [OK]
ton<2000> โทรหา kook<2003> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ton<2000> โทรหา ron<2004> [OK]
ton<2000> โทรหา ron<2004> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ton<2000> โทรหา vit<2005> [OK]
ton<2000> โทรหา vit<2005> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]

tiger<2001> โทรหา ton<2000> [OK]
tiger<2001> โทรหา ton<2000> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
tiger<2001> โทรหา ying<2002> [OK]
tiger<2001> โทรหา ying<2002> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง[OK]
tiger<2001> โทรหา kook<2003> [OK]
tiger<2001> โทรหา kook<2003> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
tiger<2001> โทรหา ron<2004> [OK]
tiger<2001> โทรหา ron<2004> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
tiger<2001> โทรหา vit<2005> [OK]
tiger<2001> โทรหา vit<2005> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]

ying<2002> โทรหา ton<2000> [OK]
ying<2002> โทรหา ton<2000> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ying<2002> โทรหา tiger<2001> [OK]
ying<2002> โทรหา tiger<2001> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ying<2002> โทรหา kook<2003> [OK]
ying<2002> โทรหา kook<2003> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ying<2002> โทรหา ron<2004> [OK]
ying<2002> โทรหา ron<2004> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ying<2002> โทรหา vit<2005> [OK]
ying<2002> โทรหา vit<2005> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]


kook<2003> โทรหา ton<2000> [OK]
kook<2003> โทรหา ton<2000> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
kook<2003> โทรหา tiger<2001> [OK]
kook<2003> โทรหา tiger<2001> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
kook<2003> โทรหา ying<2002> [OK]
kook<2003> โทรหา ying<2002> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
kook<2003> โทรหา ron<2004> [OK]
kook<2003> โทรหา ron<2004> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
kook<2003> โทรหา vit<2005> [OK]
kook<2003> โทรหา vit<2005> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]

ron<2004> โทรหา ton<2000> [OK]
ron<2004> โทรหา ton<2000> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ron<2004> โทรหา tiger<2001> [OK]
ron<2004> โทรหา tiger<2001> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง[OK]
ron<2004> โทรหา ying<2002> [OK]
ron<2004> โทรหา ying<2002> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ron<2004> โทรหา kook<2003> [OK]
ron<2004> โทรหา kook<2003> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
ron<2004> โทรหา vit<2005> [OK]
ron<2004> โทรหา vit<2005> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]

vit<2005> โทรหา ton<2000> [OK]
vit<2005> โทรหา ton<2000> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
vit<2005> โทรหา tiger<2001> [OK]
vit<2005> โทรหา tiger<2001> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
vit<2005> โทรหา ying<2002> [OK]
vit<2005> โทรหา ying<2002> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
vit<2005> โทรหา kook<2003> [OK]
vit<2005> โทรหา kook<2003> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]
vit<2005> โทรหา ron<2004> [OK]
vit<2005> โทรหา ron<2004> ถ้าไม่มีคนรับสายหรือสายไม่ว่างจะมีการบันทึกข้อความเสียง [OK]

โดยจะมีการบันทึกข้อความเสียงที่ฝากไว้ใน INBOX ของเจ้าของ ACCOUNT ที่มีคนโทรหา
เมื่อเจ้าของต้องการจะดูต้อง FTP เข้ามาดูที่ SERVER หรือไม่ถ้าเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้อยู่มีความสามารถ
ในการเรียกดูผ่านโทรศัพท์ได้ก็สามารถอ่านข้อความเสียงที่มีคนฝากไว้ได้จากตัวเครื่องได้เลย


แต่ถ้าผมเซต server โดยใช้ ip จริงเมื่อไหร่และมีการเปิด service SMTP เมื่อมีคนโทรมาหาเ้จ้าของ account แล้วเจ้าของ accountไม่สามารถรับสายหรือสายไม่ว่างก็จะมีการส่ง voice mail ไปหาเจ้าของ account ทันทีหลังจากมีการบันทึกเสียงเสร็จจากคนที่โทรมาหา
เช่น ron<2004> โทรหา ton<2000> แล้วสายไม่ว่างหรือไม่รับสายแล้ว ron<2004> ฝากข้อเสียงหาton<2000> หลังจากได้รับสัญญาณเสียงบอกให้ฝากข้อความ เมื่อ ron<2004> ฝากข้อความเสียงหา ton<2000>เสร็จแล้วกดเครื่องหมา่ย # ก็จะเป็นการจบการบันทึกข้อความเสียง หลังจากนั้นจะมีเมลจาก server ส่งมา ton<2000> ดังนี้


เมื่อ ton<2000> เปิดเมลมาก็จะเจอว่า ron<2004> ได้ฝากข้อความเสียงอะไรไว้และเปิดฟังดูได้ ทำให้ไม่มีพลาดทุกการติดต่อ